|
SCIF |
เหล็กรูปพรรณ |
การผลิต |
*การผลิตจะตรงตามที่ทางบริษัทได้ออกแบบไว้
*ลดเศษของเสียหน้างาน
*การออกแบบของบริษัทฯช่วยเสริมการรับแรงของระบบโครงหลังคา
*การรีดเย็นจะไม่ทำให้ความแข็งแรงของวัตถุดิบเปลี่ยนไป
|
*ต้องมีการตัดต่อวัสดุหน้างาน
*มีเศษเสียเยอะหน้างาน
|
วัตถุดิบ |
*วัตถุดิบเคลือบสังกะสีตามมาตรฐาน JIS3302 เคลือบไม่ต่ำกว่า 220 กรม
*วัตถุดิบทำมาจากเหล็กแรงดึงสูง ซึ่งค่าแรงดึงไม่ต่ำกว่า 550 MPa, ASTM A653
*ความคงที่ของวัตถุดิบซึ่งมีแบบและขนาดเดียว
|
*ต้องทาสีกันสนิมซึ่งทำให้เกิดความไม่มั่นคงในคุณภาพ
*วัตถุดิบทำมาจากเหล็กรีดร้อน ซึ่งมีแรงดึงประมาณ 300 Mpa ซึ่งทำให้ได้คุณภาพที่ไม่คงที่
*วัสดุมีหลายขนาดและชนิด ยากต่อการเลือกใช้งาน
|
การออกแบบและการติดตั้ง |
*การออกแบบและรายละเอียดของระบบถูกออกแบบโดยวิศวกร ผู้มีประสบการณ์
*การออกแบบเป็นไปตามมาตรฐาน การก่อสร้างของต่างประเทศ เช่น AS 1170, As 4100, BS 5950
*สามารถพลิกแพลงการเปลี่ยนแปลงหน้างาน
*ใช้สกรูในการยึดที่จุดต่อ
*เบาและง่ายต่อการขนย้าย
*คุณภาพที่คงที่ของวัตถุดิบและแบบทำให้ไม่ต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญสูง
*ติดตั้งได้รวดเร็ว
|
*ไม่มีมาตรฐานที่ต่างชาติรู้จัก
*ใช้การเชื่อมในการเชื่อมต่อซึ่งยากต่อการควบคุมคุณภาพ และการเปลี่ยนแปลงหน้างาน
*หนักและยากต่อการขนย้าย
*ต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญสูงในการติดตั้ง
*ใช้เวลานานในการติดตั้ง
|
หลังคา |
*สามารถรับหลังคาแบบ cement, clay and metal sheet กับวัสดุใต้หลังคาเช่น aluminum foil, fiberglass wool และอื่นๆ |
*สามารถรับหลังคาแบบ cement, clay and metal sheet กับวัสดุใต้หลังคาเช่น aluminium foil, fiberglass wool และอื่นๆ |
น้ำหนักของโครง |
*ประมาณ 6-7 กก. ต่อ ตารางเมตร
*ลดแรงรับของโครงสร้างดังนั้นจะช่วยลดต้นทุนของโครงสร้าง |
*ประมาณ 12-15 กก. ต่อ ตารางเมตร |
เพดาน |
*ระบบหลังคานี้สะดวกต่อการติดตั้งฝ้าเพดาน |
*ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการติดตั้งฝ้าเพดาน |